Month: October 2019

ก่อนทำประกันชีวิตทุกครั้งเราก็ควรจะศึกษาและรู้จักก่อนว่าประกันชีวิตนั้นมีแบบไหนบ้าง แบบไหนที่เหมาะสมกับเรา เพราะถ้าเราเลือกผิดแล้วละก็อาจทำให้เราเสียเงินไปเปล่าหรือไม่คุ้มค่า ฉนั้นลองมาทำความรู้จักประกันชีวิตแต่ละประเภทกันก่อน

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา

ประกันชีวิตแบบนี้จะเป็นแบบที่เหมือนกับประกันภัย ก็คือเป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง สมมุติว่าเราต้องการความคุ้มครอง 1 ล้านบาท 3 ปี เราควรจ่ายเบี้ยประกันครั้งเดียวแล้วถ้าเราเป็นอะไรไปในช่วงระยะเวลา 3 ปีนั้น คนข้างหลังเราจะได้เงินสดไปเลย 1 ล้านบาท ประกันชีวิตแบบนี้จะเป็นแบบพี่เอาไว้บริหารความเสี่ยงเท่านั้นเพราะเป็นเบี้ยจ่ายทิ้งและจะจ่ายเฉพาะส่วนความคุ้มครองดังนั้นทำให้เบี้ยประกันจะค่อนข้างถูกกว่าแบบอื่นๆ

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

ประกันชีวิตแบบนี้จะเป็นแบบที่เราจ่ายเบี้ยไปสักระยะหนึ่ง เช่น 10 ปี หรือ 20 ปี แล้วจะได้ทุนประกันไปตลอดชีวิตของเรา บางแบบอาจจะจบเมื่อเราอายุ 85 ปีหรือ 99 ปีเราก็จะได้ทุนประกันกลับมาใช้ได้เลย แต่จุดประสงค์ของการทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพมีไว้เพื่อเป็นมรดกหรือเอาไว้สำหรับคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เอาไว้บริหารและทำให้ไม่รู้สึกว่าจ่ายเงินทิ้งเปล่าทำให้ประกันชีวิตตลอดชีพก็เป็นทางเลือกหนักที่น่าสนใจ

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

ประกันชีวิตประเภทนี้น่าจะเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะว่าเป็นชนิดที่จ่ายเบี้ยประกันแล้วจะได้รับเงินคืนมากกว่าเบี้ยที่จ่ายไป โดยทั่วไปแบบประกันที่เราจะรู้ล่วงหน้าชัดเจนเลยว่าเราต้องจ่ายเบี้ยทั้งหมดกี่ปีแล้วเราจะได้เงินสดคืนปีไหนบ้าง ซึ่งผลตอบแทนของประกันชีวิตประเภทนี้นั้นควรจะอยู่ราวๆเฉลี่ยประมาณ 2-4 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านั้น ถ้าเกิดมีใครมาเสนอขายหรือชักชวนทำด้วยผลตอบแทนที่มากกว่านี้อาจจะต้องพยายามตรวจสอบให้มั่นใจว่าเรานั้นเข้าใจเท่าทันเงื่อนไขต่างๆ จริงๆ ไม่เช่นนั้นอาจรู้สึกพลาดทีหลังก็ได้

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

ประกันชีวิตประเภทบำนาญนี้ถูกสร้างมาเพื่อลดความเสี่ยงในการมีเงินไม่พอใช้ยามเกษียณ ซึ่งประเภทนี้จะให้เราจ่ายเงินค่าประกันไปจนถึงอายุเกษียณ แล้วหลังจากนั้นเราก็จะได้เงินคืนเพื่อใช้ในแต่ละปีไปเรื่อยๆ จนเสียกว่าจะสิ้นชีวิตหรือตามอายุที่ตกลงกัน ซึ่งประกันชนิดนี้จะได้ประโยชน์กับคนที่ทำประกันเอง ประกันประเภทนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่อยากมีเงินไว้ใช้ยามแก่ เพราะเราไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ก่อนได้
เหล่านี้เป็นเพียงประเภทคร่าวๆของประกันชีวิตเท่านั้นซึ่งรายละเอียดต่างๆ ของมันก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องอ่านทำความเข้าใจก่อนทุกครั้ง

การมีประกันภัยที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนทางการเงิน เราบางคนมีรูปแบบของการประกัน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันคืออะไรและทำไมต้องทำประกัน สำหรับชาวอินเดียส่วนใหญ่การประกันภัยเป็นรูปแบบการลงทุนหรือการลดภาษีที่ยอดเยี่ยม ถามคนทั่วไปเกี่ยวกับการลงทุนของพวกเขาพวกเขาภูมิใจพูดถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนหลักของพวกเขา จากประมาณ 5% ของชาวอินเดียที่ได้รับการประกันสัดส่วนของผู้ที่ได้รับการประกันอย่างเหมาะสมนั้นต่ำกว่ามาก มีผู้ประกันตนจำนวนน้อยมากที่เห็นว่าเป็นการประกันอย่างหมดจด บางทีอาจไม่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ที่เห็นการขายผิดพลาดในมือของตัวแทนอยากขายผลิตภัณฑ์ที่รวมการลงทุนเพื่อชนะประกันและคอมมิชชั่นไขมัน

ประกันคืออะไร

การประกันภัยเป็นวิธีการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สำคัญของบุคคลหรือนิติบุคคลไปยังกลุ่มบุคคลหรือองค์กรขนาดใหญ่ในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่โชคร้ายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนคือค่าตอบแทนรายเดือนหรือรายปีที่จ่ายให้กับผู้ประกันตน ในรูปแบบของการประกันที่บริสุทธิ์ที่สุดหากเหตุการณ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีการระบุเงินที่จ่ายในช่วงเวลานั้นเนื่องจากไม่มีการชดเชยใด ๆ การประกันภัยเป็นผู้ประกันตนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นช่องทางในการกระจายความเสี่ยงไปสู่กลุ่มคนที่ช่วยลดภาระทางเศรษฐกิจในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ช็อค

ผู้ประกันตนและผู้ประกันตน

เมื่อคุณค้นหาการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินและทำสัญญากับผู้ให้บริการประกันภัยคุณจะกลายเป็นผู้ประกันตนและ บริษัท ประกันภัยจะกลายเป็นผู้ประกันตนของคุณ

ผลรวมมั่นใจ

ในประกันชีวิตนี่คือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยสัญญาว่าจะจ่ายเมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่รวมโบนัสที่เพิ่มในกรณีประกันระยะยาว ในการประกันวินาศภัยจำนวนเงินที่รับประกันนี้อาจเรียกว่าเป็นประกัน

เบี้ยประกันภัย

สำหรับการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่ บริษัท ประกันภัยจัดให้ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายค่าชดเชย นี้เรียกว่าพรีเมี่ยม พวกเขาอาจจะจ่ายเป็นรายปีรายไตรมาสรายเดือนหรือตามที่ตัดสินใจในสัญญา จำนวนพรีเมี่ยมที่จ่ายไปนั้นน้อยกว่าความคุ้มครองประกันหลายเท่าหรือไม่สมเหตุสมผลนักที่จะหาประกันเลย ปัจจัยที่กำหนดค่าพรีเมี่ยมคือความคุ้มครองจำนวนปีที่ต้องการทำประกันอายุของผู้เอาประกันภัย (บุคคลยานพาหนะ ฯลฯ ) เพื่อระบุชื่อ

ผู้ท้าชิง

ผู้รับประโยชน์ที่ระบุโดยผู้เอาประกันภัยเพื่อรับเงินเอาประกันภัยและผลประโยชน์อื่น ๆ หากมีการเสนอชื่อ ในกรณีของการประกันชีวิตจะต้องเป็นบุคคลอื่นนอกเหนือจากผู้เอาประกัน

ข้อกำหนดของนโยบาย

จำนวนปีที่คุณต้องการความคุ้มครองคือเงื่อนไขของนโยบาย ระยะเวลาถูกตัดสินใจโดยผู้ประกันตนในเวลาที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัย

ผู้ขี่

นโยบายการประกันบางอย่างอาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเป็นส่วนเสริมนอกเหนือจากความคุ้มครองที่แท้จริง สิ่งเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์ได้โดยจ่ายเบี้ยประกันพิเศษ หากคุณสมบัติเหล่านั้นจะต้องซื้อแยกต่างหากพวกเขาจะมีราคาแพงกว่า ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเพิ่มผู้ขับขี่อุบัติเหตุส่วนบุคคลด้วยการประกันชีวิตของคุณ

มูลค่าเวนคืนและมูลค่าที่จ่าย

หากคุณต้องการออกจากนโยบายก่อนที่คำนั้นจะสิ้นสุดลงคุณสามารถยกเลิกได้และรับเงินคืน จำนวนเงินที่ผู้รับประกันภัยจะจ่ายให้คุณในกรณีนี้เรียกว่ามูลค่าเวนคืน นโยบายสิ้นสุดอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณหยุดจ่ายเบี้ยกลางคัน แต่ไม่ถอนเงินจำนวนนั้นจะเรียกว่าเป็นการจ่ายเงิน ในตอนท้ายของข้อกำหนด บริษัท ประกันจะจ่ายให้คุณตามสัดส่วนของมูลค่าที่ชำระแล้ว

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่านี่เป็นวิธีการทำงานของประกันในคำธรรมดา บริษัท ประกันรวมเบี้ยประกันจากกลุ่มคนจำนวนมากที่ต้องการประกันความสูญเสียบางประเภท ด้วยความช่วยเหลือของนักคณิตศาสตร์ บริษัท ได้ทำการวิเคราะห์ทางสถิติเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของการสูญเสียที่เกิดขึ้นจริงในผู้คนจำนวนหนึ่งและแก้ไขค่าจ้างพิเศษโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ มันทำงานกับความจริงที่ว่าไม่ประกันทั้งหมดจะประสบความสูญเสียในเวลาเดียวกันและหลายคนอาจไม่ประสบความสูญเสียเลยภายในเวลาของสัญญา

ประเภทของการประกันภัย

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นที่สามารถวัดได้ในรูปของเงินสามารถประกันได้ เพื่อปกป้องคนที่คุณรักจากการสูญเสียรายได้เนื่องจากการเสียชีวิตที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเราสามารถทำประกันชีวิตได้ เพื่อปกป้องตัวคุณเองและครอบครัวจากค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดฝันคุณสามารถเลือกใช้นโยบายการประกันสุขภาพ เพื่อปกป้องรถยนต์ของคุณจากการโจรกรรมหรือความเสียหายจากอุบัติเหตุคุณสามารถมีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ได้ เพื่อปกป้องบ้านของคุณจากการโจรกรรมความเสียหายอันเนื่องมาจากไฟไหม้น้ำท่วมและภัยอื่น ๆ คุณสามารถเลือกทำประกันบ้านได้

แบบฟอร์มประกันที่นิยมมากที่สุดในอินเดียคือประกันชีวิตประกันสุขภาพและประกันภัยรถยนต์ นอกเหนือจากนี้ยังมีรูปแบบอื่น ๆ เช่นกันซึ่งกล่าวถึงโดยย่อในย่อหน้าต่อไปนี้ ภาคประกันภัยได้รับการควบคุมและตรวจสอบโดย IRDA (การกำกับดูแลการประกันภัยและการพัฒนา)

ประกันชีวิต

การประกันแบบนี้ให้ความคุ้มครองความเสี่ยงทางการเงินในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มี บริษัท ประกันชีวิต 24 แห่งที่เล่นในเวทีแห่งนี้ซึ่ง บริษัท ประกันชีวิตของอินเดียเป็น บริษัท มหาชน มีหลายรูปแบบของกรมธรรม์ประกันชีวิตในรูปแบบที่ง่ายที่สุดซึ่งเป็นแผนระยะ นโยบายที่ซับซ้อนอื่น ๆ ได้แก่ แผนเอ็นดาวเม้นท์, แผนชีวิตทั้งหมด, แผนคืนเงิน, ULIP และค่างวด

ประกันภัยทั่วไป

นโยบายการประกันอื่น ๆ ทั้งหมดนอกเหนือจากประกันชีวิตอยู่ภายใต้การประกันทั่วไป มี บริษัท ประกันภัยทั่วไป 24 แห่งในอินเดียซึ่ง 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท ประกันภัยแห่งชาติ จำกัด บริษัท ประกันอินเดียใหม่ จำกัด บริษัท โอเรียนทอลประกันภัย จำกัด และ บริษัท ยูไนเต็ดอินเดียประกันภัย จำกัด อยู่ในโดเมนสาธารณะ

วงกลมที่ใหญ่ที่สุดของการประกันวินาศภัยในแง่ของเบี้ยประกันที่ใช้ร่วมกันคือการประกันภัยรถยนต์ตามด้วยการประกันทางวิศวกรรมและการประกันสุขภาพ การประกันภัยรูปแบบอื่น ๆ ที่ บริษัท ในอินเดียนำเสนอ ได้แก่ ประกันภัยบ้านประกันการเดินทางประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยธุรกิจ

ซื้อประกัน

มีนโยบายให้เลือกมากมาย เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์อนาคตของเราและหยุดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นได้การมีประกันครอบคลุมเป็นสิ่งจำเป็น แต่คุณต้องเลือกอย่างระมัดระวัง อย่าไปกับสิ่งที่ตัวแทนบอกคุณ อ่านเอกสารนโยบายเพื่อรับทราบสิ่งที่ได้รับการคุ้มครองคุณสมบัติที่นำเสนอและเหตุการณ์ที่ไม่รวมอยู่ในการประกัน

1.รู้ถึงความต้องการของคุณ

กำหนดว่าทรัพย์สินหรือเหตุการณ์ใดจะต้องได้รับการปกป้องจากการสูญเสีย / ความเสียหาย มันคือชีวิตสุขภาพยานพาหนะบ้านใช่ไหม ถัดไปกำหนดประเภทของความเสียหายหรืออันตรายที่แน่นอนว่าสินทรัพย์จะได้รับการสัมผัสมากที่สุด สิ่งนี้จะบอกคุณว่าคุณลักษณะใดที่คุณควรมองหาในนโยบาย แน่นอนว่าจะมีการสูญเสียซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้และค่าใช้จ่ายในการจัดการกับพวกเขาอาจสูงมาก ยกตัวอย่างเช่นไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บไม่ว่าพวกเขาจะมีสุขภาพสมบูรณ์ในปัจจุบัน

ข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในการซื้อประกันโดยเฉพาะการประกันชีวิตคือการลงทุน การทำประกันและการลงทุนในสินค้าเดียวเป็นความคิดที่ไม่ดี คุณสูญเสียทั้งสองด้านเพราะสำหรับเบี้ยประกันที่คุณจ่ายเพิ่มเติมจะได้รับในแผนระยะยาวและหากมีการลงทุนระดับพรีเมี่ยมในตราสารที่ดีกว่าผลตอบแทนของคุณอาจเพิ่มขึ้นหลายเท่า

ระวังตัวแทนที่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อกรมธรรม์ที่ไม่จำเป็นเช่นประกันชีวิตเด็กประกันบัตรเครดิตประกันการว่างงานและอื่น ๆ แทนที่จะซื้อประกันแยกต่างหากสำหรับสินทรัพย์หรือเหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจงมองหานโยบายที่ครอบคลุมโฮสต์ของเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ภายใต้ความคุ้มครองเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ให้เลือกนักปั่นที่เข้าท่าแทนที่จะซื้อแยกต่างหาก หากไม่มีโอกาสพอสมควรที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นคุณไม่จำเป็นต้องทำประกัน ตัวอย่างเช่นหากคุณมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุและความพิการเนื่องจากลักษณะการทำงานของคุณหรือเหตุผลอื่นคุณไม่จำเป็นต้องมีนโยบายการประกันอุบัติเหตุ นโยบายการประกันชีวิตที่ดีที่มีผู้ขับขี่เสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจหรือการสละสิทธิ์ของผู้ขับขี่ระดับพรีเมี่ยมหรือผู้พิการที่มีรายได้จะทำหน้าที่

2.ทำความเข้าใจคุณสมบัติและค่าใช้จ่ายของผลิตภัณฑ์

วิธีที่เลวร้ายที่สุดในการเลือกผลิตภัณฑ์ประกันหรือผู้ประกันตนคือการปฏิบัติตามคำแนะนำของตัวแทนหรือเพื่อน วิธีที่ดีที่จะทำคือซื้อสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของคุณและกรองรายการที่เสนอพรีเมี่ยมที่ต่ำกว่าสำหรับคำศัพท์ที่คล้ายกันเช่นอายุจำนวนที่ครอบคลุม ฯลฯ รายละเอียดทั้งหมดที่คุณต้องการเกี่ยวกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และค่าใช้จ่าย เว็บไซต์ของ บริษัท สามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยหลายแบบออนไลน์ได้แล้ว การซื้อออนไลน์นั้นฉลาดกว่าเพราะพรีเมี่ยมต่ำกว่าเนื่องจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมตัวแทน หากซื้อออฟไลน์ในกรณีของประกันชีวิตบอกตัวแทนที่คุณสนใจเฉพาะประกันระยะ

ก่อนที่คุณจะลงนามในสัญญาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจสิ่งที่ได้รับความคุ้มครองและรายการใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นจากความคุ้มครอง มันจะเป็นการทำลายล้างอย่างมากในการเรียนรู้ในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือสูญหายที่รายการที่คุณหวังว่าจะได้รับจากการประกันนั้นไม่รวมอยู่ในประกัน ผู้คนมากมายจึงรีบไปที่ บริษัท ประกันของพวกเขาหลังจากได้รับการรักษาโรคเท่านั้นที่จะตระหนักว่าโรคนี้ไม่ได้รับการยกเว้น ทำความเข้าใจกับรายละเอียดต่างๆเช่นเมื่อความคุ้มครองเริ่มต้นและสิ้นสุดและวิธีการยื่นขอเคลมและรายงานความเสียหาย

อย่าเลือก บริษัท ประกันเพราะเพื่อนในละแวกของคุณเป็นตัวแทนของพวกเขาและอย่าปล่อยให้พวกเขาเกลี้ยกล่อมให้คุณซื้อจากพวกเขา เบี้ยประกันรันมานานหลายปีและหมายถึงเงินจำนวนมาก นอกเหนือจากค่าจ้างพิเศษที่มองหาบริการที่มีให้ เมื่อคุณต้องเผชิญกับอันตรายคุณต้องการให้มีการดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่ซับซ้อนกับพนักงานที่ไม่ให้ความร่วมมือในสำนักงานของ บริษัท ประกันภัย ค้นหาคำตอบจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์กับ บริษัท มาก่อนสำหรับคำถามเช่นวิธีที่ลูกค้าเป็นมิตรและตอบสนองต่อ บริษัท เมื่อต้องจัดการกับการเรียกร้อง

3.ประเมินและอัพเกรดในเวลา

เมื่อคุณเดินจากเวทีชีวิตหนึ่งไปสู่อีกช่วงเวลาหนึ่งหรือเมื่อสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของคุณจะต้องได้รับการตรวจสอบ บางทีความคุ้มครองของคุณจะต้องเพิ่มขึ้น (หรือลดลง) หรือคุณจะต้องเติมด้วยผู้ขับขี่ อินสแตนซ์บางอย่างเมื่อคุณต้องการตรวจสอบความคุ้มครองของคุณคือเมื่อคุณแต่งงานเมื่อคุณมีลูกเมื่อรายได้ของคุณเพิ่มขึ้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อคุณซื้อบ้าน / รถยนต์และเมื่อคุณรับผิดชอบพ่อแม่ผู้สูงอายุ

คุณรู้วิธีออมเงินหรือไม่? ถ้าใช่นั่นยอดเยี่ยม แต่มันจะไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเว้นแต่คุณจะสามารถตอบคำถามง่าย ๆ สี่ข้อเกี่ยวกับการออมเงินได้

คุณสังเกตเห็นโอกาสใหม่ ๆ หรือไม่?
ทำไมคุณถึงประหยัด?
คุณออมเงินกับใคร
คุณสามารถตัดสินใจอย่างมีสติได้หรือไม่?
มีหลายวิธี แต่ไม่มีใครสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเว้นแต่คุณจะรู้ว่าทำไมคุณจึงออมเงินและใครจะใช้มันในอนาคต

1.วิธีการออมเงิน

คุณค้นหาเคล็ดลับเกี่ยวกับการออมเงิน ฉันจะไม่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กับคุณ ทั้งหมดที่ฉันพยายามคือให้มุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับความล้มเหลวของคุณ

คุณสามารถตัดสินใจว่าจะออมเงินได้อย่างไรตามรายได้ค่าใช้จ่ายวิถีชีวิต ฯลฯ คุณรู้วิธีที่แน่นอนที่สามารถทำงานให้คุณหรืออย่างน้อยก็สามารถทำงานได้ คุณประสบความสำเร็จเกี่ยวกับบางส่วนของพวกเขา แต่ในตอนท้ายคุณไม่มีเงินออมเพียงพอ

เมื่อคุณติดอยู่กับที่คุณชอบมันก็เหมือนกับว่าคุณมี blinders และคุณพลาดโอกาส คุณใช้จ่ายมากกว่าที่คุณบันทึกไว้ในโอกาสต่าง ๆ

คุณตัดสินใจที่จะซื้อเสื้อผ้าของคุณในการขาย แต่คุณไม่สามารถต้านทานโทรศัพท์มือถือใหม่ คุณตัดสินใจที่จะ จำกัด การรับประทานอาหารนอกบ้าน แต่คุณไม่สามารถละทิ้งไวน์ที่คุณโปรดปรานในมื้อค่ำ โทรศัพท์และไวน์ไม่อยู่ในรายการของคุณ

2.ทำไมคุณถึงออมเงิน

คุณมีเป้าหมายที่แน่นอนจริง ๆ ซึ่งบังคับให้คุณช่วยหรือคุณเพียง แต่ต้องการความเร่งด่วน?

คุณควรมีเหตุผลที่แข็งแกร่งสำหรับเงินเพราะการกำหนดว่าทำไมคุณจึงออมเงินเป็นแรงจูงใจที่แข็งแกร่งที่สุดในการประหยัดหากเหตุผลของคุณคือสิ่งที่คุณต้องการ

การตั้งค่าเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น คุณคิดว่าข้อใดต่อไปนี้แข็งแกร่งกว่า

** เงินเพื่อการเกษียณหรืองานอดิเรกหรือเพื่อบ้านในฝันของคุณ
** เงินสำหรับเด็กหรือการศึกษาของพวกเขาหรือสำหรับวิทยาลัยที่เฉพาะเจาะจง

หากเหตุผลที่คุณต้องการออมเงินมีความแข็งแกร่งเพียงพอวิธีการออมเงินจะไม่เป็นความท้าทาย นี่เป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดเมื่อพยายามออมเงิน คุณไม่สามารถมั่นใจได้เกี่ยวกับวิธีการประหยัดเพราะมีโอกาสที่แตกต่างกัน แต่คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทำไมคุณถึงต้องการออมเงิน แม้ว่าทำไมการออมเงินจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ แต่วิธีการบันทึกนั้นขึ้นอยู่กับใครบางคนหรือบางสิ่ง

เหตุผลของคุณมั่นคงกว่าที่คุณต้องการ

อาจมีฉุกเฉินสำหรับเงินและคุณไม่สามารถยืนได้นานเกินไปถ้าคุณออมเงินเพื่อความเร่งด่วน ในขณะนี้มีอะไรที่เร่งด่วนสำหรับคุณและคุณสามารถสูญเสียเงินออมของคุณได้

3.ใครจะใช้เงินที่คุณบันทึกไว้?

มันง่ายกว่าที่จะเสียสละตัวเองเพื่อคนที่คุณรัก คุณสามารถละทิ้งความต้องการสำหรับลูก ๆ ของคุณคู่สมรสพ่อแม่หรือเพื่อนที่ดีที่สุด แต่คุณเสียสละตัวเองเพื่อคนแปลกหน้าหรือไม่?

บางคนมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับตัวของพวกเขาในอนาคตเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า

หากคุณคิดว่าตัวเองในอนาคตของคุณจะมีโอกาสที่แตกต่างกันสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่ดีกว่าที่คุณไม่สามารถเชื่อมต่อกับตัวเองในอนาคตของคุณ คุณยอมรับตนเองในอนาคตในฐานะคนแปลกหน้าที่ดีกว่าคุณที่สามารถรับมือกับทุกสิ่งในอนาคตได้โดยไม่ต้องให้ความช่วยเหลือ ในตอนท้ายคุณไม่ต้องการที่จะเสียสละความต้องการในปัจจุบันของคุณสำหรับสิ่งที่คุณจะอยู่ในอนาคตโดยไม่รู้ตัว

ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณคิดว่าตัวเองในอนาคตของคุณจะมีอายุมากกว่าและฉลาดกว่าคุณกว่าที่คุณสามารถสร้างการเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย การออมเงินเพื่อตนเองในอนาคตที่ฉลาดกว่าคุณจะกลายเป็นความคิดที่ดี

4.การตัดสินใจที่ไม่ได้สติ

ผู้คนตัดสินใจโดยไม่รู้ตัวโดยที่พวกเขาไม่ได้คิดอะไร มีการหน่วงเวลาเล็กน้อยระหว่างการตัดสินใจและการกระทำที่ไม่รู้สึกตัวของคุณ

จิตใต้สำนึกของคุณเต็มไปด้วยความสัมพันธ์ของคุณกับเงินประสบการณ์นิสัยความสัมพันธ์ทางสังคมความเชื่อทางศาสนาและอื่น ๆ ที่ผ่านมาของคุณจะถูกบันทึกไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณและคุณไม่สามารถลบหรือเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย

ลองนึกภาพว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับสิ่งที่คุณต้องการ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเงินหรือบันทึกใด ๆ คุณคิดว่าจิตใต้สำนึกของคุณจะเปลี่ยนไปแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจของคุณจะเปลี่ยนไปหรือไม่? เว้นแต่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างมีสติจิตใต้สำนึกของคุณจะตัดสินใจรับสิ่งที่คุณต้องการในขณะนี้ตามที่จะตัดสินใจเสมอ ดังนั้นคุณสามารถออมเงินในกรณีนี้ได้หรือไม่?

4 สิ่งที่ต้องทำก่อนออมเงิน

1. คุณต้องเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ ชีวิตรอบตัวคุณเปลี่ยนไปทุก ๆ วินาทีและวิธีบันทึกรายการเงินต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง
2. คุณต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงเพื่อออมเงิน เป้าหมายของคุณคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
3. คุณต้องเชื่อมต่อกับตนเองในอนาคต คุณจะเป็นคนที่คุณอยากเป็นในอนาคตไม่ใช่คนแปลกหน้า ..
4. ระวังการตัดสินใจจิตใต้สำนึกเว้นแต่พวกเขาจะบรรลุเป้าหมายของคุณ

คุณสามารถขอความช่วยเหลือในการปรับปรุงแรงจูงใจการตัดสินใจความมั่นใจและการกำหนดเป้าหมายหากคุณต้องการบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับเงิน คุณสามารถลองใช้ Brainwave Entrainment ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการพัฒนาพลังความคิดของคุณเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรือง

Nil Celen เป็นนักวิจัยอิสระเกี่ยวกับพลังใจกฎแห่งความสำเร็จขั้นตอนการตัดสินใจและทฤษฎีการตั้งเป้าหมายจากแหล่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์